เอริค เทน ฮาก หวังต่อสัญญาระยะยาว 5 แข้งหลัก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ตามรายงาน ข่าวฟุตบอล จาก แมนเชสเตอร์อิฟนิงนิวส์ ทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ในเวที พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาลนี้ มีแผนที่จะจับผู้เล่นตัวหลักของทีม 5 รายต่อสัญญาระยะยาวฉบับใหม่หลังจากที่พวกเขาสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมช่วยพาทีมกลับมามีลุ้นในการคว้าโควต้าไปเล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า
เอริค เทน ฮาก บอสใหญ่ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเก็บชัยชนะแบบรัวๆไม่หยุดยั้ง โดยเกมล่าสุดยอดกุนซืออย่าง เทน ฮาก นำลูกทีม ผีแดง เปิดบ้านเอาชนะคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 2 ประตูต่อ 1 ได้อย่างสุดมัน ทำให้พวกเขามี 38 คะแนน ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เพียงแต้มเดียวและรั้งอันดับ 4 ของตารางคะแนน
โดยมีคะแนน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่ากับ นิวคาสเซิล ทีมอันดับ 3 ของตาราง แต่พวกเขาแข่งน้อยกว่า 1 นัด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทาง เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมแผนที่จะมอบสัญญาใหม่ให้กับแข้งที่เป็นกำลังหลักของทีมและกำลังจะหมดสัญญาในเร็วๆ นี้โดยทั้ง 5 รายแข้งนั้นประกอบไปด้วย ดาวิด เด เคอา , มาร์คัส แรชฟอร์ด , ลุค ชอว์ , ดิโอโก้ ดาโลต์ และ เฟร็ด
ดาวิด เด เคอา นายทวารมือกาวชาวสแปนิช ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง เหลือสัญญาจนถึงจบฤดูกาลนี้และอยู่ในช่วงของการเจรจาอย่างต่อเนื่องกับสัญญาฉลับใหม่ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมอบให้ ในขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เคยมีข่าวว่าจะย้ายไปเล่นให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมยักษ์ใหญ่ในฝรั่งเศส ช่วง ตลาดซื้อขายนักเตะ ช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว
แต่ในฤดูกาลนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาโชว์ฟอร์มและสร้างผลงานได้อย่างเยี่ยมยอด โดยล่าสุดยิงไปแล้วทั้งสิ้น 16 ประตูในทุกรายการ จึงทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด อยู่ในข่ายที่จะได้รับข้อเสนอต่อสัญญาฉบับใหม่ด้วย ในรายของ ลุค ชอว์ และ ดิโอโก้ ดาโลต์ นั้นกลายเป็นฟูลแบ็คตัวหลักของ เอริค เทน ฮาก ในซีซันนี้
นายใหญ่ชาวดัตช์ของทัพผีแดง มีความต้องการให้ ลุค ชอว์ และ ดิโอโก้ ดาโลต์ ฟูลแบ็กตัวหลักทั้งสองรายนี้อยู่กับทีมต่อไปในระยะยาว ส่วน เฟร็ด ถึงแม้จะมีอายุเข้าใกล้ 30 ปีแล้วก็ตาม แต่ เอริค เทน ฮาก ก็ยังมองว่า เฟร็ด เป็นกำลังสำรองหลักที่สามารถสร้างอิมแพ็คให้กับ แมนฯยู ได้อย่างต่อเนื่อง เฟร็ด จึงอยู่ในข่ายที่จะได้รับสัญญาฉบับใหม่ด้วยเช่นกัน
เสือเหลือง เล็งยืม เอลังก้า ปีกดาวรุ่งจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

รายงาน ข่าวฟุตบอล จากนักข่าวคนดัง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ รายงานว่า “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมยักษ์ใหญ่แห่ง บุนเดสลีก้า เยอรมัน กำลังให้ความสนใจและอยู่ในช่วงพิจาณาที่จะยื่นข้อเสนอเพื่อที่จะขอยืมตัว แอนโธนี่ เอลังก้า ปีกดาวรุ่ง ทีมชาติสวีเดน ในวัย 20 ปี จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แอนโธนี่ เอลังก้า ปีกดาวรุ่ง ทีมชาติสวีเดน ในวัย 20 ปี ถูกผลักดันขึ้นชุดใหญ่ของ ทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ฤดูกาลก่อน ซึ่งเป็นการขึ้นชุดใหญ่ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ราล์ฟ รังนิค แต่ในซีซั่นนี้ดูเหมือนว่า แอนโธนี่ เอลังก้า ไม่อยู่ในแผนของ เอริค เทน ฮาก เขายังไม่ได้โอกาสในทีมยุคของกุนซือ เอริค เทน ฮาก มากนัก ซึ่งได้ลงตัวจริงเกมลีคไปเพียงแค่ 5 นัดเท่านั้น
แต่ในขณะเดียวกัน อเลฮานโดร การ์นาโช่ อีกหนึ่งแนวรุกดาวรุ่งก็แจ้งเกิดขึ้นมาจนได้รับโอกาสก่อน ซึ่งเหตุนี้นั่นเองจึงทำให้อนาคตของ แอนโธนี่ เอลังก้า ในถิ่น โอลด์แทรฟฟอร์ด เกิดความไม่แน่นอนขึ้น ถึงแม้ แอนโธนี่ เอลังก้า ปีกดาวรุ่ง ในวัย 20 ปี ทีมชาติสวีเดน จะยังเหลือสัญญากับ ทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงปี 2026 ก็ตาม
แต่ในขณะเดียวกันนั้น จากรายงาน ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ได้ระบุว่า ดาวรุ่งชาวสวิดิช ในวัย 20 ปี คนนี้ ได้เปิดกว้างสำหรับย้ายไปเล่นในลีก บุนเดสลีก้า เยอรมัน ช่วงที่ ตลาดซื้อขายนักเตะ เปิดช่วงซัมเมอร์มกราคมนี้
เจ้าหนู แอนโธนี่ เอลังก้า ปีกดาวรุ่ง ทีมชาติสวีเดน ในวัย 20 ปี นอกจาก ดอร์ทมุนด์ ทีมยักษ์ใหญ่แห่ง บุนเดสลีก้า ที่ให้ความสนใจแล้ว เอฟเวอร์ตัน ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีความสนใจที่จะยืม แอนโธนี่ เอลังก้า ปีกดาวรุ่ง ในวัย 20 ปี รายนี้มาร่วมทีมด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนนี้การตัดสินใจขึ้นอยู่กับทาง ปีศาจแดง ว่าจะตัดสินใจเช่นไรกับอนาคตของ แอนโธนี่ เอลังก้า
เดวิด มอยส์ พร้อมกลับมาทำงานที่ แมนฯยู ไนเต็ด อีกครั้ง

เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้ออกมาเปิดกับสาย ข่าวฟุตบอล ว่า เขาอยากกลับมาร่วมงานกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งในอนาคตหลังจากที่เขา รีไทร์จากการเป็นผู้จัดการทีม เดวิด มอยส์ อยากจะกลับไปรับงานด้านบริหารกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เดวิด มอยส์ เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายใหญ่ของ ทัพปีศาจแดง เมื่อปี 2013 ซึ่งปีนี้ครบรอบ 10 ปี ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลือก เดวิด มอยส์ เข้ามาคุมบังเหียนในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่อจากตน หลังจาก อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือชาวสก็อตอำลาตำแหน่ง
โดยตอนนั้นบางคนเชื่อว่าเขาจะเป็นทายาทที่ดีของ เซอร์ เฟอร์กี้ ได้ แต่สุดท้ายเขากลับทำผลงานได้น่าผิดหวังจนโดนปลดออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของปี 2014 เดวิด มอยส์ ได้รับสัญญา 6 ปี แต่ อยู่ทำหน้าที่ได้เพียง 10 เดือนเท่านั้น โดยในฤดูกาลนั้น ผีแดง จบอันดับที่ 7 ของฤดูกาล 2013-14 และไม่ผ่าน้ขาไปเล่นใน ฟุตบอลยุโรป ด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้อยู่มาพูดกับสาย ข่าวฟุตบอล ของสตีเว่น บาร์ทเลตต์ ว่าเขาพร้อมจะกลับไปทำงานให้กับ แมนฯยู ในบทบาทเบื้องหลัง โดย เดวิด มอยส์ ได้กล่าวไว้ว่า “ผมไม่คิดว่าจะมีบทบาทในฐานะผู้จัดการทีมอย่างแน่นอน เวลาของผมหมดลงแล้ว แต่ผมชอบที่จะมีส่วนร่วมในฟุตบอลเสมอ และหวังว่าใครสักคนจะต้องการใช้ประสบการณ์ของผมเมื่อตอนนั้นผมไม่ได้เป็นผู้จัดการทีมแล้ว”
“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม เมื่อคุณคุมทีมยูไนเต็ด มันเหมือนอยู่ในเพนต์เฮาส์และมองออกไปข้างนอก คุณอยู่เหนือทุกคน และคุณมองเห็นวิวได้ดีกว่ามาก และสำหรับผมแล้วพวกเขาคือเพนต์เฮาส์”
นับตั้งแต่ เดวิด มอยส์ ถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2014 เดวิด มอยส์ ก็ไม่ประสบความสำเร็จกับ เรอัล โซเซียดาด และ ซันเดอร์แลนด์ ก่อนช่วย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูโรปาลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ เดวิด มอยส์ กำลังพบกับแรงกดดันเมื่อ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ฟอร์มตกและยังจมอยู่ในโซนตกชั้น และเขายังเป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมในเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้อีกด้วย
หากถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมจริงๆ เดวิด มอยส์ หวังว่า เวสต์แฮม จะแจ้งข่าวให้เขาทราบก่อน เพราะเขาไม่อยากให้เหมือนกับกรณีเดียวกันกับเขาสมัยที่ยังทำงานอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดย มอยส์ มารู้หลังจากสื่อด้วยซ้ำว่าตนกำลังจะตกงาน
โดยทาง เดวิด มอยส์ กุนซือชาวสก็อตแลนด์รายนี้ได้กล่าวเพิ่มเติมกับสาย ข่าวฟุตบอล อีกว่า “ผมรู้เมื่อสื่อโทรมาหา ผมแพ้เกมที่เอฟเวอร์ตัน และสื่อก็พูดว่า ผมรู้ว่าคุณกำลังจะตกงาน ยูไนเต็ด โทรมาหาผมในวันรุ่งขึ้น และเวลานี้ทั้งโลกรู้เรื่องก่อนผมเสียอีก”
“ผมคิดเสมอว่าคุณต้องแจ้งข่าวร้ายให้ดี คุณเป็นบอส คุณมีงานใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถ้าคุณมีคลาสหรือสไตล์หน่อย เวลาที่ต้องบอกข่าวร้าย มันต้องออกมาให้ดีที่สุด ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมถูกแจ้งมานั้นยังไม่ดีเท่าที่ควร”